Engagement คืออะไร

การตลาดแบบ Engagement คืออะไร? มาทำความรู้จักพฤติกรรมที่เปลี่ยนคนดูให้กลายเป็นลูกค้ากัน

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจบนโลกออนไลน์สูงขึ้นทุกวัน การทำการตลาดแบบเดิม ๆ ที่เน้นการสื่อสารทางเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ปัจจุบันแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ คือแบรนด์ที่สามารถสร้าง Engagement หรือการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคได้ดีที่สุด เพราะนี่คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนจากคนดูที่เลื่อนผ่าน ให้กลายมาเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Engagement ทางการตลาด คืออะไร และเราจะสร้างพฤติกรรมนี้ให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ของเราได้อย่างไร

Engagement คืออะไร?

เอนเกจ (Engagement) คือพฤติกรรมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ ดูวิดีโอ คลิกลิงก์ หรือแม้แต่การหยุดดูโพสต์ของแบรนด์นานกว่าปกติ ทุกการกระทำนั้นคือสัญญาณที่บอกว่า ผู้ชมกำลัง “อิน” กับสิ่งที่คุณนำเสนอ

หรือให้นิยามง่าย ๆ ได้ว่า เอนเกจ คือดัชนีวัดความสนใจ และความสัมพันธ์ที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนคนดูให้กลายเป็นลูกค้าได้ในที่สุด


ทำไม Engagement ถึงสำคัญกับการตลาดยุคนี้?

เพราะยุคนี้ การทำการตลาดไม่ใช่แค่การสื่อสารแบบทางเดียวอีกต่อไป แต่ต้องสร้างความสัมพันธ์ และการโต้ตอบกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า Engagement เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและผูกพันกับแบรนด์มากกว่าแค่ผู้ซื้อ-ผู้ขาย
  • เพิ่มการมองเห็น (Visibility) อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับโพสต์ที่มี Engagement สูง ทำให้คอนเทนต์ของแบรนด์ถูกนำเสนอและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้มากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณาเพียงอย่างเดียว
  • สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี เมื่อลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการสร้างความไว้วางใจและทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้ารายอื่นๆ
  • เป็นกระบอกเสียงชั้นดี (Advocacy) ลูกค้าที่มี Engagement สูง มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้บอกต่อและปกป้องแบรนด์ (Brand Advocate) ซึ่งมีพลังมากกว่าการโฆษณาโดยแบรนด์เองเสียอีก
  • เปลี่ยนเป็นยอดขายในที่สุด แม้ Engagement จะไม่ใช่ยอดขายโดยตรง แต่มันคือสะพานที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ เมื่อลูกค้าผูกพันและเชื่อมั่นในแบรนด์ โอกาสที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการย่อมสูงขึ้น

ประเภทของ Engagement บนโลกออนไลน์

Engagement สามารถวัดผลได้จากหลายพฤติกรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยหลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

Reactions

การแสดงความรู้สึกต่อคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เช่น การกดไลก์ (Like), รัก (Love), ห่วงใย (Care), ว้าว (Wow), เศร้า (Sad) หรือโกรธ (Angry) บน Facebook ซึ่งเป็นข้อมูลชั้นดีที่ทำให้แบรนด์รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้คนที่มีต่อคอนเทนต์นั้น ๆ

Comments

การแสดงความคิดเห็นหรือการคอมเมนต์ ถือเป็น Engagement ที่มีคุณภาพสูงกว่า Reactions เพราะผู้ใช้งานต้องใช้ความพยายามในการพิมพ์ข้อความเพื่อสื่อสารกับแบรนด์โดยตรง การตอบกลับคอมเมนต์อย่างใส่ใจจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

Shares

Shares คือการที่ผู้ชมเห็นว่าคอนเทนต์นั้นมีประโยชน์ มีคุณค่าหรือน่าสนใจมากพอที่จะนำไปเผยแพร่ต่อในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้ (Awareness) และขยายฐานผู้ชมไปยังกลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างมหาศาล

Clicks

การคลิก ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ ปุ่มหรือ Call-to-Action ต่าง ๆ เป็นสัญญาณว่า ผู้ชมอยากรู้อะไรเพิ่มเติม นำไปสู่การเข้าเว็บไซต์ กรอกฟอร์ม หรือสั่งซื้อได้ในอนาคต

CTR

CTR คืออัตราส่วนของการคลิกต่อจำนวนคนที่เห็นโพสต์ เป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าเนื้อหาและหัวข้อของคุณน่าสนใจแค่ไหนในสายตาผู้บริโภค


5 กลยุทธ์สร้าง Engagement ให้แบรนด์แข็งแกร่ง

รู้จักลูกค้าของตัวเอง

ก่อนจะสร้าง Engagement ได้ ต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร มีความสนใจ ไลฟ์สไตล์ หรือปัญหาแบบไหน เพื่อนำมาสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง

วางภาพลักษณ์แบรนด์ให้ชัดเจน น่าเชื่อถือ

คนจะเอนเกจกับแบรนด์ได้ ต้องรู้สึกไว้วางใจและมีความชัดเจนในสิ่งที่แบรนด์เป็น การมี Brand Identity ที่แข็งแรงจะช่วยให้คนจดจำและอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น

ออกแบบคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์และดึงดูด

คอนเทนต์ควรมีคุณค่า เช่น คอนเทนต์ให้ความรู้ แรงบันดาลใจหรือความบันเทิงและควรมีจุดกระตุ้นให้คนโต้ตอบ เช่น การตั้งคำถาม เชิญชวนให้คอมเมนต์ หรือใช้สตอรี่ที่ Relatable กับผู้ชมได้

วางแผนเวลาโพสต์ด้วย Content Calendar

แม้คอนเทนต์จะดีแค่ไหน แต่ถ้าโพสต์ผิดเวลา ก็อาจไม่เกิด Engagement ดังนั้นการวางแผนการโพสต์ในเวลาที่กลุ่มเป้าหมายออนไลน์บ่อยที่สุดคือสิ่งสำคัญ แนะนำให้ทำ Content Calendar จะช่วยให้คุณวางแผนล่วงหน้าได้ว่าจะโพสต์เรื่องอะไร ในวันและเวลาใด ซึ่งควรเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณออนไลน์และพร้อมที่จะมีปฏิสัมพันธ์มากที่สุด

พัฒนาคอนเทนต์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากโพสต์ไปแล้ว ต้องมีการวัดผลและนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์อยู่เสมอ ดูว่าคอนเทนต์รูปแบบไหนได้รับ Engagement ดีที่สุด กลุ่มเป้าหมายชอบหรือไม่ชอบอะไร เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาแผนการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในอนาคตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สรุปบทความ

Engagement ในการตลาด คือการสร้างปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นมากกว่าแค่ยอดไลก์หรือคอมเมนต์ แต่เป็นหัวใจสำคัญของการตลาดในยุคดิจิทัลที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ ความไว้วางใจ และเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ในที่สุด การทำความเข้าใจว่า เอนเกจ คืออะไร และนำกลยุทธ์ต่าง ๆ ไปปรับใช้ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในสนามการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ได้อย่างแน่นอน